news-details

MANGU E-Magazine Issue 267 (1st Nov 2023) บทสัมภาษณ์พิเศษกับ CEO ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา และ นพ.ธนัท จิรโชติชื่นทวีชัย

Bangkok Central Clinic ประตูสู่ความมหัศจรรย์แห่งชีวิต

  • บทสัมภาษณ์พิเศษกับ CEO ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา และ นพ.ธนัท จิรโชติชื่นทวีชัย

 

       ภายใต้การแนะนำของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,เทคโนโลยีการปฏิสนธินอกร่างกายได้กลายเป็นหนึ่งในความหวังอันล้ำค่าที่สุดในใจของคู่รักที่มีบุตรยากหลายคู่ในกรุงเทพฯ.  โดยในประเทศไทยมีคลินิกที่เป็นแถวหน้าด้านการแพทย์ผสมเทียม และนี้ก็คือ Bangkok Central Clinic IVF & Wellness. คลินิกแห่งนี้ไม่เพียงแต่ตั้งอยู่ในโรงแรม Conrad Bangkok ณ All Seasons Place ใจกลางกรุงเทพอันพลุกพล่านเท่านั้น, แต่ยังมีทีมแพทย์ที่โดดเด่น ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์, พยาบาลและจิตแพทย์. ที่นำปาฏิหาริย์แห่งชีวิตมาสู่ครอบครัวที่มีบุตรยากอย่างนับไม่ถ้วน.

      Bangkok Central Clinic IVF & Wellness  มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี IVF . โดยทางคลินิกใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด ได้แก่ การปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF) , การย้ายตัวอ่อนและการตรวจคัดกรองทางพันธุกรรม, เพื่อให้มั่นใจว่าผู้มีบุตรยากทุกคนจะประสบความสำเร็จอย่างในรูปแบบที่ดีที่สุด. เพราะ Bangkok Central Clinic IVF & Wellness  ยึดมั่นในหลักการดูแลแบบ “ คนต่อคน ” และจัดเตรียมการวินิจฉัยและแผนการรักษาเฉพาบุคคลให้กับผู้ป่วยแต่ละราย. นอกจากนี้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ยังรับฟังความต้องการของผู้ป่วยและช่วยเหลือผู้ป่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในระหว่างกระบวนการผสมเทียม, และได้ให้คำปรึกษาครอบครัวหลายพันครอบครัวถึงวิธีการต้อนรับสมาชิกตัวน้อยและเปิดเตรียมตัวเปิดประตูสู่ปาฏิหาริย์สำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาชีวิตใหม่อยู่ตลอดเวลา.

ในฐานะที่ศูนย์ปฏิสนธินอกร่างกายที่ผู้มีบุตรยากในและต่างประเทศให้การยอมรับอย่างสูง. Bangkok Central Clinic IVF & Wellness  มีข้อดีและความที่เป็นเลิศอะไรอีกบ้าง? นิตยสาร ManGu Bangkok ฉบับนี้ ขอเชิญ ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา CEO Bangkok Central Clinic IVF & Wellness  และ นพ.ธนัท จิรโชติชื่นทวีชัย ผู้มีชื่อเสียงในด้านสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา และภาวะมีบุตรยาก มาเปิดเผยให้เราทราบถึงที่มาของบริษัทที่ยืนอยู่ในวงการ IVF ว่าอะไรที่ทำให้คลินิกล้ำสมัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว.

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bangkok Central Clinic IVF & Wellness: ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา

Mangu: อยากให้คุณหมอแนะนำตัวพร้อมประสบการณ์ของคุณหมอให้พวกเรารู้จักหน่อยค่ะ

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา : สวัสดีค่ะชื่อหมอทราย หรือว่าทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนาค่ะ หลักจากจบแพทย์ก็เริ่มทำคลินิก IVF หรืออิ๊กซี่ (ICSI) เป็นคลินิกทำเด็กหลอดแก้ว เป็นเทคโนโลยีเจริญพันธ์ในเรื่องการทำเด็กหลอดแก้ว และดูแล wellness ในเรื่องสุขภาพของคู่สามีภรรยารวมถึงworking women เราดูและตั้งแต่ wellness เป็นคลินิกแรกที่เอาศาสตร์ของ holistic integrative คือการดูแลสุขภาพแบบผสมผสาน เชิง wellness เข้ามา ให้การรักษาเรื่อง IVF ค่ะ

Mangu: ทำไมคุณหมอถึงมีความคิดริเริ่มที่จะเปิด Bangkok Central Clinic IVF & Wellness นี้ขึ้นมาคะ?

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา : ตั้งแต่ได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางอเมริกาได้มีการศึกษาในเรื่องของสเต็มเซลล์ ถึงขั้นว่ามี Harvard Stem Cell Alumni เลย สเต็มเซลล์มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับ IVF หรืออิ๊กซี่ (ICSI)เด็กหลอดแก้วสูงมากๆ พูดตรงๆการทำเป็นหลอดแก้วมันเป็นเรื่องของเซลล์ค่ะ ในตอนนั้นเรามีความตั้งใจที่อยากจะยกระดับการรักษาและรวมถึงเทคโนโลยีที่ดูแลเซลล์ การทำเด็กหลอดแก้วได้อย่างไรได้บ้าง พอเราได้ศึกษาเด็กหลอดแก้วมากขึ้น ได้พบกับผู้เชียวชาญหลายๆท่าน เราได้ค้นพบKnow How ของเราเลย พอเราทำด้วยความรัก ความตั้งใจ ความใส่ใจปรากฎว่าระดับความสำเร็จในการรักษาค่อนข้างสูง ส่วนเรื่องของการทำการตลาดในไทยห้ามทำการตลาดเชิญชวนที่เกินจริง แต่ทางคลินิกของเราระดับความสำเร็จบางเดือนสูงเกิน90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งในส่วนนี้ตลกมากเพราะเหมือนเราต้องทำโฆษณาไปแต่ต้องบอกว่าผลเราสูงแค่70 เปอร์เซ็นต์แต่จริงๆเราผลของเราดีมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ด้วยความที่เรามีความรักในการทำเด็กหลอดแก้วและอยากให้ประสบความสำเร็จ ทีมงานและทีมแพทย์ใส่ใจ ทำให้เราจุดประกายของเรื่องของการทำคลินิกทำเด็กหลอดแก้ว IVF ที่ดูแลสุขภาพตั้งแต่ต้นจนจบเพราะเราพบว่าการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี การได้รับข้อมูลการศึกษาที่ดีและรวมถึงด้าน IVF ของเราค่อนข้างแตกต่างจากที่อื่น ด้วยความใส่ใจและอัตราความสำเร็จที่ผ่านมาก็พบแล้วว่าในขั้นตอนการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ต้องเป็นทีมเราเท่านั้น พอเข้ามาเริ่มทำแล้วเราก็ตกใจเหมือนกันที่เราโตเร็วจากที่เรานำเอาเทคโนโลยีนี้เข้ามาทำให้เกิดการพูดปากต่อปากเยอะผลจากสำเร็จที่สูงค่ะ

Mangu: คลินิกของคุณหมอเป็นที่พูดถึงมากในโลกโซเซียล มีการบริการ หรือการรักษายังไง ที่ทำให้มีการบอกต่อกันปากต่อปากมากขนาดนี้

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา :  สำหรับทางคลินิกถ้าเริ่มต้นเลยถ้าหากเป็นคู่สมรส พึ่งแต่งงานใหม่แต่อยากจะวางแผนดูแลสุขภาพดูแลตัวเองก็สามารถเริ่มมาตรวจเช็คกันก่อนว่าพร้อมมีลูกเมื่อไหร่ จะมีการตรวจเลือดและมีคำแนะนำ คุณหมอก็จะวางแผนครอบครัวให ้ดูแลเกี่ยวกับดูแลสุขภาพองค์รวมทั้งหมด การดูสุขภาพให้เหมาะสมกับการนอนของเรา เวลาการทำงานของเรา โครโมโซมของเรา คือเราวางแผนwellness ลึกในระดับนั้นเลย เราจะเรียกว่าเราเป็น ผู้เชี่ยวชาญเชี่ยวชาญในเรื่องของ fertility wellness ก็ว่าได้ และในกลุ่มของคุณหมอ IVF จะเริ่มให้คำแนะนำในเรื่องการวางแผนการคุมกำเนิดให้มีบุตรให้ตามเวลาที่คนไข้เหมาะสมและอยากจะมี เนื่องจากเราให้การรักษาเน้นที่คนไข้เป็นหลัก ดูแลคนไข้และให้คำปรึกษาให้เหมาะช่วงเวลาและความต้องการของคนไข้ ซึ่งบางครอบครัวหรือบางคู่สมรสยังไม่มีวางแผนที่จะมีลูกเร็วๆนี้แต่อีก2 ปี ข้างหน้าเราก็ทำการวางแผนแนะนำในการทำอิ๊กซี่ (ICSI) เก็บแช่แข็งตัวอ่อนไว้ก่อนเพราะว่าคู่สมรสอายุได้ไม่อายุมากทำให้ประสบความสำเร็จสูง โครโมโซมจะเป็นสิ่งที่เรากังวลที่สุด คุณผู้หญิงควรจะเก็บไข่ทำตัวอ่อนก่อนอายุ 35 ปี เพราะสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้เลยคือโครโมโซมแต่ว่าเมื่อโครโมโซมเปลี่ยนแปลงไปอายุมากขึ้นเป็นไปได้ไหม กลุ่มคนไข้ที่อายุ 52 ปี ก็ยังประสบความสำเร็จ แต่เราต้องให้ความใส่ใจสูงคัดเลือกตัวอ่อนเก็บไข่โครโมโซมดีที่สุด เราก็จะให้คำแนะนำกับคู่แต่งงานใหม่ให้เก็บไข่ Embryo Freezing ไว้ก่อน หรือคุณผู้หญิง working women ที่ยังไม่ได้วางแผนที่จะแต่งงาน อย่างตัวหมอเองก็วางแผนที่จะทำ Egg Freezing เหมือนกัน ซึ่งการบริหารเราทำคือคลินิก IVF ด้วยความตั้งใจ แรงบันดาลใจตอนแรกอยากจะมีศูนย์เก็บไข่ IVF ที่มีที่เก็บEgg Freezing เป็นของตัวเอง ที่เหมือนระดับ6 ดาว โรงแรมยังมีหลายระดับเลย เราเลยอยากได้บริการที่เป็นแบบเราไว้ใจได้ มีความสุขที่จะเดินเข้ามา และ เป็นการรักษาที่ไม่ทำให้เราเครียด ซึ่งความเครียดมีผลมากๆในต่อผลของการรักษา อันนี้เป็นแรงบันดาลใจที่เราจะทำเพื่อตัวเราเอง และเราเป็นหมอที่ค่อนข้างช่างเลือก และอยากให้ผู้หญิงยุคใหม่ตอบสนองให้เรื่องของการดูแลด้วย สุขภาพด้วย และ วางแผนชีวิตด้วยเองด้วย และบริการระดับโรงแรม6ดาว เป็นสิ่งที่ไปไหนเราก็อยากได้รับอยู่แล้ว เป็นการเริ่มต้นของคอนเซปของ IVF อิ๊กซี่ (ICSI) center ที่ดูแลในเรื่องของ holistic wellness รวมถึงมี IVF และเมื่อเราเริ่มต้นคุณหมอก็จะดูแลตั้งแต่การตรวจเลือด ให้คำแนะนำวางแผนครอบครัว บางท่านต้องบอกว่าใช้เงินน้อยมากเลยแคใช้วิธีนับวันแบบธรรมชาติก็สามารถสำเร็จได้เลยเหมือนกันอยู่กับว่าทางทีมแพทย์เราจะให้คำแนะนำอย่างไร เรียกว่าเป็น customize แล้วแต่บุคคลไม่ใช่ว่าทุกท่านจะเหมาะสมกับการรักษา แต่เราจะเลือกการรักษาให้เหมาะกับบุคคลด้วย ปัจจัยในเรื่องของความสำเร็จไม่ได้มีเพียงแค่สุขภาพอย่างเดียวมีในเรื่องความเครียดด้วยเรื่องของสภาวะงาน สภาวะอารมณ์หรือในเรื่องของความพร้อมในด้านครอบครัว ในเรื่องของการวางแผนการเงินด้วย ในส่วนนี้ก็ต้องบอกว่าน่าจะเป็นความใส่ใจของทางทีมงานของเราที่ดูแลคนไข้ เหมือนกับเป็นคนในครอบครัวของเราค่ะ

Mangu: อยากให้คุณหมอช่วยเล่าเคสที่รู้สึกประทับใจ จากการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ให้เราฟังสักเคสได้ไหมคะ

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา :  ทางชาวจีนที่เข้ามาคลินิกของเราต้องบอกว่าน่ารักมากติดต่อเราเข้ามาวอล์คอินเลย ทั้งๆที่สามารถติดต่อเราทำได้ทางช่องทาง WECHAT, BAIDU,เว็บไซต์ กลุ่มที่ติดต่อตรงมากับเราเนี่ยก็พบว่าเป็นลักษณะของการพูดปากต่อปาก อาจจะมีกลุ่มคนไข้ที่สำเร็จแล้ว และกลับไปแนะนำต่อมีชาวจีนหลายๆท่านที่มาคลินิกเราก็รู้จักข้อมูลของทางเราเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าทางเราต้องบอกว่าเราเน้นในเรื่องของการรักษาเป็นสำคัญ อัตราความสำเร็จสูง และความใส่ใจคนไข้เป็นสำคัญ ดังนั้นในเรื่องของการทำการตลาดของเรา เราก็จะไม่ได้เน้นมาก เราเน้นให้ผลงานของเราเกิดการปากต่อปากมากกว่า ในเรื่องของการทำการตลาดของเราอาจจะไม่ได้เป็นในลักษณะของการเอาดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ กลุ่มดาราเราจะไม่เคยขอจ้าง ดาราหรือคนดังพวกเขาเข้ามารักษาจริง และ มีชาวจีนมาทำ IVF ที่เมืองไทยอยู่หลายครั้ง มีหนึ่งเคสที่มีคนไข้มีอายุเยอะมากแล้ว แต่ทำ IVF มีบุตรสำเร็จไปแล้วหนึ่งคน พอคนไข้ไว้ใจเราแล้วก็มาเก็บไข่เอาไว้อีกหลายครั้ง ถ้ามีเวลาคนไข้ก็จะกลับมาทำตัวอ่อนเอาไว้ตลอด คือคนไข้ให้แนวคิดกับเราว่าสิ่งที่คนไข้ไม่สามารถย้อนเวลากลับมาได้ก็คือไข่ของตัวเอง การทำตัวอ่อนที่มีสุขภาพดี เขาไม่สามารถย้อนเวลากลับไปทำมันได้อีก เป็นสิ่งที่เราก็รู้สึกว่าประทับใจที่คนไข้มองเห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ คนไข้มีบุตรแล้วหนึ่งคนเขาบอกว่าอาจจะอยากมีอีกหลายหลายคนในอนาคต ซึ่งสภาวะสังคมแบบนี้เราไม่รู้ว่า ในอนาคตจะเกิดโรคระบาดเกิดการสูญเสียหรือเปล่า ทำให้คนไข้ประทับใจและให้ความรักกับเรามาก รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกับเรา คนไข้เดินทางมาเมืองไทยสามเดือนครั้งก็จะมาเก็บไข่กับเราทุกครั้ง และทุกครั้งที่มาเที่ยวเมืองไทยก็จะมาตรวจสุขภาพกับเรา มาฉีดวิตามินกับเรา มาดูแลสุขภาพกับเราตลอด คนไข้บอกว่าประทับใจเราตรงที่ลูกคนแรกของเขาทำที่อื่นมาแล้วหกครั้ง ต้องบอกว่าการทำมาหลายครั้งแล้ว ก็เป็นงานยากสำหรับเราเหมือนกัน เป็นความท้าทายให้กับเรามากเพราะคนไข้ได้รับการกระตุ้นยามาเยอะแล้ว ทำให้กว่าจะได้ตัวอ่อนที่ดีหรือจะมาสำเร็จที่เราเนี่ย ทำให้เราเครียดเหมือนกัน แต่ด้วยทีมงานทีมแพทย์ทีมวิทยาศาสตร์ทุกคนใส่ใจมากเหมือนอยากจะให้สำเร็จสักครั้งหนึ่ง ซึ่งมาทำกับที่เราสำเร็จเป็นครั้งแรกเลย อาจจะเป็นความโชคดี ต้องขอยกความดีความชอบให้ทีมงานทีมแพทย์ทีมวิทยาศาสตร์ทุกท่านที่ดูแลคนไข้เป็นอย่างดี บางครั้งคนไข้ชาวจีนจะมีกังวลเรื่องที่พัก หรือเรื่องการรักษา ทางเรามีทีมดูแล24 ชั่วโมง พร้อมดูแลรับสายตอบคำถามหรือเข้าแก้ปัญหาทันที นี่เป็นนโยบายของทางคลินิกเลยว่าต้อง24 ชั่วโมง ของกระบวนการรักษาของเราทีมเราดูแลให้หมด ไร้ความกังวล นอกจากนี้คือทางน้องๆCustomer serviceยังดูแลในเรื่องของแนะนำที่เที่ยว แนะนำโรงแรม แนะนำอาหารได้ด้วย เรียกว่าเหมือนมาเป็นครอบครัวเดียวกัน หมอมองว่าคนไข้ที่นี่ต้องได้รับความรู้สึกเหมือนครอบครัว อยากให้เขาไว้ใจเพราะพอคนไข้ไว้ใจผลการรักษาจะออกมาดีเสมอเลยค่ะ

Mangu: จากที่ได้ฟังอันนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่หมือนกันนะคะ มีส่วนไหนเพิ่มเติมนอกจากนี้ไหมคะ ที่คุณหมอรู้สึกว่าเป็นจุดเด่นของคลินิก

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา :  จุดเด่นของเราอันดับแรกคือ คนไข้ของเราจะรู้สึกว่าได้รับการใส่ใจ ดูแลเหมือนครอบครัวเรา อย่างที่สองคือประสบการณ์ของทีมแพทย์ ที่มีความจริงใจ ทั้งในเรื่องของแนวทางการรักษาและเรื่องและเรื่องของค่าใช้จ่ายจะเปิดเผยหมดเราจะเปิดเผยหมด จะไม่มีการเรียกคนไข้เข้ามาในราคาที่ถูก แล้วสุดท้าย packageนั้นแพง ความจริงใจในการที่ให้ลูกค้าทำการรักษาและเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งทำให้คนไข้ที่เข้ามารักษารักเราเยอะมากเหมือนกับสิ่งที่เราให้เป็นความจริงและเป็นเป็นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ที่เป็นจุดเด่นของคลินิกเราเป็นเหมือนมิตรภาพให้กับคนไข้ พอมีคนไข้ที่มีเยอะขึ้นอาจทำให้ตกหล่น ซึ่งนโยบายของการบริหารงานของเรา ก็จะพยายามที่จะเพิ่มเติมในเรื่อง customer service เพิ่มคนมาดูแลให้มากขึ้นไม่ใช่เพิ่มคนไข้ให้ customer service ดูแลเพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและดีที่สุดแล้วลดความเสี่ยงของการผิดพลาดด้วย

               การรักษาของเราแพทย์จะเป็นคนรักษาและวางแผนเองทั้งหมดทีม แต่ เรามี customer service ที่สามารถพูดภาษาจีน และ ได้รับการเทรนและอบรมกับแพทย์โดยตรง ดังนั้นจะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าใจในด้านการรักษา และก็จะค่อยประคับประครองให้คนไข้อยู่ในแผนรักษาของแพทย์ได้เป็นอย่างดี

Mangu:  อยากให้คุณหมอเล่าให้ฟังว่าย้อนกลับไปในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 สามารถนำคลินิกผ่านสถานการณ์นั้นมาได้อย่างไร

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา :  ต้องบอกว่าตอนช่วงของโควิด เป็นช่วงของคลินิก IVF ปิดตัวลงไปเยอะมาก มากกว่า 60% แต่ทางคลินิกสามารถก้าวผ่านตรงนั้นมาได้ต้องบอกว่า เรารักคนไข้เหมือนครอบครัวและเราก็รักทีมงานทีมแพทย์เหมือนครอบครัวเช่นเดียวกัน ดังนั้นซึ่งทำให้ทุกคนก็ฝันฝ่าอุปสรรคมาได้ คนไข้ชาวจีนที่เข้ามาเมืองไทยไม่ได้ แต่ว่ายังมีชาวจีนที่ยังอยู่ในเมืองไทยอยู่แล้ว รวมถึงคนจีนเปิดประเทศแล้วเข้ามาหาเราได้ ตอนนั้นยอดเราอาจจะไม่ได้เยอะเหมือนตอนที่เปิดประเทศแต่เราก็สามารถที่จะประคองธุรกิจของเราให้ เหมือนเดิม ไม่ขาดหาย ไม่ตกหล่น รวมถึงว่าเราได้ความไว้วางใจจากคนไข้ในประเทศไทยสูงมาก คนไข้ในประเทศไทยให้ความไว้วางใจเราสูงมากทั้งเรื่องคุณภาพทำในเรื่องความใส่ใจค่ะเรื่องของความใส่ใจและเรื่องของการบริการ เหมือนคนไข้ในไทยเมื่อได้มาสัมผัสก็จะให้ใจกับเรา เราเลยเหมือนเป็นเบอร์หนึ่งของคนไข้คนไทยด้วย นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนไข้ที่เป็นต่างชาติในสถานทูตและระดับรัฐมนตรีที่อยู่ในประเทศไทย เข้ามารับการรักษาในช่วงนั้น เป็นช่วงที่ทุกคนมองว่าเป็นจังหวะของการวางแผนและมีเวลาว่าง การที่ทำให้เราดูแลเหมือนสามารถประคับประคองผ่านจุดนั้นมาได้

               ในช่วงของโควิดในการติดเชื้อของไวรัส คนหลังหลังได้เริ่มออกมาแล้วหลังจากที่มีการวิจัยออกมาว่า ไวรัสตัวนี้ เข้าไปส่งผลกับคุณภาพของสเปิร์ม เหมือนกันรวมถึงในเรื่องของไข่เซลล์ไข่อาจจะไม่ได้ส่งผลมากแต่อาจไม่แน่นอนเพราะว่าโควิดเพิ่งเกิดขึ้น มาไม่นานทำให้มีการศึกษาอยู่ ทางแพทย์ของเราและทางนักวิจัยของเราทำงานหนักมากเพื่อที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยเรื่อยๆอัพเดตเรื่อยๆ ว่าเราจะต้องเธอแนวทางการรักษาอย่างไรแล้วก็ทางในเรื่องของสุขภาพของคนไข้ด้วยในเรื่องของการประสบความสำเร็จในการทำด้วยอิ๊กซี่ (ICSI) ในส่วนนี้ก็เป็นการเพิ่มงานของเราขึ้นในช่วงโควิดแล้วทำให้เราได้แสดงศักยภาพของเรามาก

Mangu: คุณหมอมีความคิดเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในให้การบริการทางการแพทย์สำหรับลูกค้าชาวจีน

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา :  หนึ่งคือเรามี customer service ที่เข้าใจชาวจีน ในเรื่องของการรักษาเรามีติดตามผลหนึ่งคือเรามี customer service ที่เข้าใจชาวจีน ในเรื่องของการรักษา ในบางเคสเรามีการติดตามผลเป็นพิเศษด้วย ตั้งแต่มีการวางแผนเริ่มต้นกับคุณหมอและมีหมอฝั่งประเทศจีนคอยดูแลเริ่มเป็นสื่อออนไลน์ปรึกษาออนไลน์แบบ Telemedicine เข้ามาทางคลินิกเราก่อน และ เรายินดีที่จะประสานงานกับแพทย์ประจำตัวของคนไข้ที่เป็นชาวจีนด้วย ในเรื่องของการวางแผนในการรักษาเพราะเรามองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสำเร็จของคนไข้และหลังจากรักสาเสร็จเราจะ Follow up หรือการติดตามผล อันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนไข้รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกับเราจริงๆ ซึ่งเราจะมีคอยรักษาคอยแนะนำตลอด ถ้าคนไข้มาเที่ยวเมืองไทยในรอบหน้า เราก็ยินดีที่จะนัดเวลาเข้ามาให้คำปรึกษา อยากให้คนจีนวางใจในเรื่องของการรักษาตั้งแต่การวางแผนและการประสานงานกับแพทย์ประจำตัวที่นั่นรวมถึงการรักษาจากเมืองไทยแล้วกลับไปแล้วยังให้ความมั่นใจว่า ยังมีการFollow up ติดตามผลอยู่เสมอ

Mangu:  อยากให้คุณหมอฝากอะไรสักเล็กน้อยถึงลูกค้าชาวจีนและผู้อ่านนิตยสารฉบับนี้

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา :  เราอยากฝากให้ชาวจีนที่อยากจะดูแลสุขภาพองค์รวมในเรื่องของ fertility wellness หรือมีปัญหาในเรื่องฮอร์โมน หรืออยากจะมีอายุยืนขึ้น ทางทีมแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ fertility wellness สูงมาก รวมถึงถ้าอยากจะฝากเก็บไข่หรืออยากจะเก็บตัวอ่อนไว้ที่เราก็ยินดีที่จะเป็นครอบครัวหนึ่งให้กับชาวจีนทุกท่าน การดูแลสุขภาพสำคัญกว่าการรักษาแน่นอนอยากให้มาพบเราตั้งแต่เริ่มวางแผนมาคุยกันก่อน เราไม่อยากให้คิดว่าเราเป็นแค่สถานพยาบาลอยากให้มองว่าเราเป็นเหมือนครอบครัว และ เราจะให้คำแนะนำที่ถูกต้องกลับไป อยากฝากผู้อ่านนิตยสารเล่มนี้ถ้าอยากทำ IVF หรืออิ๊กซี่ (ICSI) ,Egg Freezing ให้เราเป็นที่หนึ่งในใจคุณนะคะ

_______________________________________________________________________________________________________

 

(นพ. ธนัท จีระโชติชวนทวีชัย, Bangkok Central Clinic IVF & Wellness)

ManGu: ช่วยแนะนำตัวเอง รวมถึงประวัติ ประสบการณ์ในการทำงานให้ฟังหน่อยค่ะ

นพ.ธนัท: ผมชื่อ ธนัท จิรโชติชื่นทวีชัย (ชื่อจีน: ธนา) ชื่อเล่น บอล สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิต จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลในปี หลังจากนั้นได้เข้าศึกษาต่อในสาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา, คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์, คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ . ผมเคยทำงานในโรงพยาบาลในชลบุรี เชียงใหม่และฉะเชิงเทรา ,จากนั้นมาร่วมงานกับคลินิก First Fertility ในตำแหน่งหัวหน้าแพทย์ประมาณ 3 ปี ในปีที่ 4 ก็ได้เข้าร่วม Bangkok Central Clinic IVF & Wellness.

ManGu: คุณหมอช่วยแนะนำเราเกี่ยวกับกระบวนการทั่วไปของการปฏิสนธินอกร่างกายหรือการผสมเทียมได้ไหม?

นพ.ธนัท: กระบวนการผสมเทียมมักใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์และมีขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้ :

1. การกระตุ้นให้เกิดการตกไข่: กระบวนการนี้จะเริ่มในช่วง 3 วันแรกของวงจรฟอลลิคูลาร์ โดยการติดตามขนาดของไข่และตรวจระดับฮอร์โมน เมื่อผลตรวจพบว่าทุกอย่างเป็นปกติ, ผู้ป่วยจะเริ่มรับประทานยากระตุ้นการตกไข่ และอัลตราซาวนด์เป็นประจำ ,การกระตุ้นให้เกิดการตกไข่มักใช้เวลา 8-12 วัน.

2. การเก็บไข่และการเก็บน้ำอสุจิ: เมื่อไข่มีขนาด 14-20 มม. และมีจำนวนเพียงพอ ให้หยุดใช้ยากระตุ้นการตกไข่ และดำเนินการเก็บไข่ต่อไปอีกประมาณ 36 ชั่วโมงต่อมา ในเวลาเดียวกัน ชายคนนั้นก็เก็บตัวอย่างอสุจิด้วย ไข่และสเปิร์มจะถูกวางรวมกันในจานเพาะเชื้อและเพาะเลี้ยงเป็นเวลา 5-6 วัน ในวันที่ 5 หรือ 6 ตัวอ่อนจะถูกแช่แข็งเพื่อรักษาความมีชีวิต นี่เป็นการสิ้นสุดการปฏิสนธินอกร่างกาย.

3. การย้ายตัวอ่อน: ขั้นตอนการย้ายตัวอ่อนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาล แต่มีสองวิธีหลัก คือ การย้ายตัวอ่อนสด และการย้ายตัวอ่อนแช่แข็ง .ในกรณีส่วนใหญ่,  การย้ายตัวอ่อนแช่แข็งจะถูกเลือกเนื่องจากมีอัตราการรอดชีวิตค่อนข้างสูง จำเป็นต้องมีการทดสอบก่อนการปลูกถ่ายเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่จะทำให้การปลูกถ่ายไม่เหมาะสม.

การย้ายตัวอ่อนมักประกอบด้วย 2 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ 1.การใช้ยาเพื่อเพิ่มความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก 2.การใช้ยาเพื่อให้เยื่อบุมดลูกและตัวอ่อน มีอายุที่สัมพันธ์กันเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการย้ายตัวอ่อน, ซึ่งโดยปกติจะสูงถึง 70-80%

ความล้มเหลวในการย้ายตัวอ่อนมักเกี่ยวข้องกับปัญหาต่อไปนี้ คือ เยื่อบุโพรงมดลูกบางเกินไป, เยื่อบุโพรงมดลูกไม่สามารถรักษาได้หลังการย้าย, ตัวอ่อนที่ย้ายล้มเหลวในการฝังตัว ,ไข่มีจำนวนจำกัดและมีคุณภาพไม่ดี มักเกี่ยวข้องกับอายุ .

ManGu: คลินิกจะดำเนินการตรวจร่างกายหรือประเมินผลอะไรบ้างกับผู้ป่วยก่อนเข้ารับการปฏิสนธินอกร่างกาย (IVF)?

นพ.ธนัท: ก่อนที่จะตัดสินใจวางแผนการรักษาเด็กหลอดแก้ว,สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการวินิจฉัยสาเหตุของภาวะมีบุตรยากของผู้ป่วยให้ครบถ้วน สาเหตุของภาวะมีบุตรยากนั้นมีความหลากหลายและครอบคลุมทั้งปัจจัยชายและหญิง.

สำหรับผู้ชาย,สาเหตุของภาวะมีบุตรยากมีประมาณ 20-30% ของผู้ป่วยภาวะมีบุตรยาก และอาจรวมถึงคุณภาพน้ำอสุจิผิดปกติ, สมรรถภาพทางเพศ, และปัจจัยการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมในการทำงานและชั่วโมงการทำงาน เป็นต้น.

ส่วนปัจจัยฝ่ายหญิงคิดเป็นร้อยละ 60-70% ของภาวะมีบุตรยาก โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับรังไข่ มดลูก และท่อนำไข่ รวมถึงการทำงานของรังไข่ผิดปกติ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือประจำเดือนมาผิดปกติจากรอยโรคที่รังไข่ ความผิดปกติของท่อนำไข่ เช่น การอุดตันของท่อนำไข่ พังผืด หรือ ผลของการผ่าตัดในโพรงมดลูก ความผิดปกติของมดลูก เช่น เนื้องอก ซีสต์ รูปร่างผิดปกติ หรือภาวะพิการแต่กำเนิด เช่น รังไข่เสื่อม ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) อาจทำให้อวัยวะต่างๆ เช่น ท่อนำไข่ และมดลูกไม่ปกติ.

เมื่อทำการปฏิสนธินอกร่างกายมักพิจารณาหลักการตามลำดับต่อไปนี้ ปัญหาท่อนำไข่ อสุจิผิดปกติ ไม่สามารถหลั่งตามธรรมชาติได้ หากลองรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ประสบผล, ผู้ป่วยมีอายุมากขึ้น กระบวนการประเมินและวินิจฉัยเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับรองประสิทธิผลของการรักษาเด็กหลอดแก้ว.

ManGu: แล้วอัตราความสำเร็จของ IVF ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้างคะ?

นพ.ธนัท: อัตราสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 ประการ ประการแรกคืออายุของผู้ป่วย อายุต่ำกว่า 35 ปี อัตราความสำเร็จคือ 40%, อายุ 35-37 ปี อัตราความสำเร็จคือ 30%, 38-40 อายุปี อัตราความสำเร็จ 20% ,อายุ 40 ปีขึ้นไป อัตราความสำเร็จน้อยกว่า 10%. อย่างที่สองคือโครโมโซมหากตรวจโครโมโซมผ่านอัตราความสำเร็จของหลอดทดลองจะอยู่ที่ 70-80%.

ManGu: สำหรับคนไข้ที่มีบุตรยาก, นอกจากการผ่าตัดเด็กหลอดแก้วแล้ว ยังมีทางเลือกการรักษาอื่นใดอีกไหมคะ? แล้วปัจจัยใดบ้างที่ต้องพิจารณาเมื่อใช้การรักษาอื่น?

นพ.ธนัท: นอกจากการผ่าตัดเด็กหลอดแก้วแล้ว ,ยังมีการรักษาภาวะมีบุตรยากอื่นๆ อีก 2 วิธีดังต่อไปนี้

วิธีแรกคือการกระตุ้นการตกไข่โดยการกระตุ้น ,โดยผู้ป่วยสามารถคำนวณเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้ด้วยตนเอง หรือใช้วันตกไข่คำนวณด้วยตนเอง. อย่างไรก็ตาม ความน่าจะเป็นที่จะสำเร็จของวิธีนี้มักจะต่ำ ไม่เกิน 10% อีกวิธีหนึ่งคือรับประทานยากระตุ้นการตกไข่หรือฉีดกระตุ้นการตกไข่และรักษาสมดุลทางร่างกาย เพื่อให้ประสิทธิภาพทางเพศเป็นปกติในระหว่างการรักษาอัตราความสำเร็จของวิธีนี้อยู่ระหว่าง 10-20%.

ManGU: ผู้ป่วยควรเตรียมตัวอะไรบ้างก่อนผสมเทียม? มีสิ่งใดบ้างที่ต้องใส่ใจและระมัดระวัง?

นพ.ธนัท: ปรับไลฟ์สไตล์ภายใน 1-2 เดือน เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารตามปกติ การดูแลตัวเอง การเสริมโภชนาการและการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการกินเช่น  การเลิกบุหรี่ การบันทึกรอบประจำเดือน เป็นต้น ผู้ป่วยคนไหนมีโรคประจำตัวก็ต้องไปจัดการดูแลตัวเองให้พร้อมในช่วงนี้ และอาจจะเพิ่มเพิ่มด้วยการใช้ยาบำรุง เมื่อพ้นช่ววงเตรียมตัวมาแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาของการทำเด็กหลอดแก้ว ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 14 วัน เมื่อประจำเดือนมาวันที่ 1-3 วัน เราก็จะมาอัลตร้าซาวน์กัน และเริ่มกระบวนการฉีดยากระตุ้นไข้ จะใช้เวลาประมาณ 8-12 วัน แล้วแต่ขนาด คุณภาพ และจำนวนของไข่

ManGu: คุณสามารถให้คำแนะนำอะไรแก่คู่รักที่ประสบปัญหาภาวะทางการเจริญพันธุ์ได้บ้าง?

นพ.ธนัท: ผมเองก็มีลูก และ เข้าใจทุกท่านว่าลูกเนี่ย เป็นสิ่งที่เข้ามาเติมเต็ม เป็นความ Complete ของชีวิตและครอบครัว เมื่อคุณพบว่าคุณไม่สามารถตั้งครรภ์ได้หลังจากเตรียมตัวมาเป็นเวลานาน. คุณควรไปพบแพทย์ทันที วิธีการรักษามีหลายแบบตามความเหมาะสมของคนไข้  อย่าเพิ่มหมดหวังกับการมีลูกครับมันยังเป็นไปได้

ManGu: คุณมีอะไรจะพูดกับผู้อ่านนิตยสารชาวจีนบ้างไหม?

นพ.ธนัท: ที่นี่เราให้บริการคนไข้อย่างพิถีพิถัน Customer service 24 ชั่วโมง ,มีการวางแผนการรักษาอย่างครอบคลุม, ค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผลและการสื่อสารที่ดีและการทำงานเป็นทีมเพื่อความสำเร็จ.

_______________________________________________________________________________________________________

Thank you.

ทพญ. นาฏรินทร์ นิธิฉัตรโชติรัตนา / Dr. Narttarin Nitichatchotrattana

นพ.ธนัท จิรโชติชื่นทวีชัย / Dr. Tanut Jerachotechueantaveechai

_______________________________________________________________________________________________________

Photographer : Natchakrit Wichiensarn @ktpx.kritt 
Graphic Designer : Natchaphol Jin Srijun @Banshy.j
Coordinator : Narumon Sripool @poo_ler 
Column Writer : Ou Yanting @olina_oyt

You can share this post!

MANGU E-Magazine Issue 268 (15th Nov 2023) บทสัมภาษณ์พิเศษกับ “นายแพทย์โอม สุดชุมแพ” ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบำบัดที่ Bangkok Central Clinic

MANGU E-Magazine Issue 266 (15th Oct 2023) พบกับบทสัมภาษณ์ “ไอซ์ สารวัตร กิจพานิช” ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 8