news-details

สัมผัสรู้จักแดนมังกร — การแสดงซิมโฟนีเรื่องราวแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนจีน-สหรัฐฯ จัดขึ้นอย่างสำเร็จ ณ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ นครนิวยอร์ก

การแสดงซิมโฟนีเรื่องราวแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนจีน-สหรัฐฯ จัดขึ้นอย่างสำเร็จ ณ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ นครนิวยอร์ก

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม งาน “สัมผัสรู้จักแดนมังกร — การแสดงซิมโฟนีเรื่องราวแห่งมิตรภาพระหว่างประชาชนจีน-สหรัฐฯ” ได้จัดขึ้นอย่างสำเร็จลุล่วง ณ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ นครนิวยอร์ก โดยมี สำนักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีน สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำสหรัฐอเมริกา และ สถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ นครนิวยอร์ก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ  พร้อมด้วย ศูนย์สื่อสารประชาสัพันธ์ระหว่างภาคพื้นของจีน และ มูลนิธิมรดกการบินสหรัฐฯ-จีน ทำหน้าที่เป็นผู้จัดงาน

ในฐานะการสานต่อกิจกรรมที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำกรุงวอชิงตัน  งานในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “รำลึกครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น-สงครามต่อต้านฟาสซิสต์โลก” โดยนำเสนอในรูปแบบใหม่ที่ผสมผสาน การบรรเลงซิมโฟนี + การเล่าเรื่องแบบมีส่วนร่วม + การแสดงภาพถ่ายและวิดีโอ อย่างลงตัว  ซึ่งได้ดึงดูดผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน จากหลากหลายภาคส่วนในเขตสถานกงสุล  ร่วมย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ กองทัพและประชาชนจีน-สหรัฐฯ ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ลัทธิฟาสซิสต์ญี่ปุ่น เพื่อสร้างสะพานแห่งความรู้สึกที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน และส่งเสริม มิตรภาพระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำนครนิวยอร์ก เฉิน ลี่ กล่าวว่า เมื่อ 80 ปีก่อน สมรภูมิในจีนซึ่งเป็นสมรภูมิหลักทางตะวันออกของสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลก ได้สร้างคุณูปการสำคัญที่ไม่อาจลบเลือนต่อชัยชนะสุดท้ายของสงคราม  จีนและสหรัฐฯ ร่วมแรงร่วมใจ ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ พร้อมกันเขียนบเพลงแห่งความกล้าหาญและความยุติธรรมไว้ในประวัติศาสตร์  ประวัติศาสตร์ร่วมซึ่งจารึกไว้ด้วยเลือดและน้ำตา เป็นทั้งสัญลักษณ์อันยั่งยืนของมิตรภาพและสมบัติล้ำค่าของประชาชนทั้งสองประเทศ  ซึ่งควรค่าแก่การสืบสานและปกปักรักษาไว้ด้วยความหวงแหน  เฉิน ลี่ กล่าวต่อว่า ประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองต้องไม่ถูกบิดเบือน และผลแห่งชัยชนะต้องได้รับการปกป้อง  การย้อนมองประวัติศาสตร์ก็เพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น  การใคร่ครวญถึงบทเรียนจากสงครามก็เพื่อยืนหยัดปกป้องความยุติธรรมและสันติภาพอย่างแน่วแน่  แม้ล่วงเลยมา 80 ปี เงาสงครามยังไม่เลือนหาย สันติภาพและความมั่นคงยังคงเป็นสมบัติร่วมอันล้ำค่าที่สุดของมนุษยชาติ  จีนและสหรัฐฯ ควรร่วมกันนำภูมิปัญญาและพลังจากประวัติศาสตร์ มาสร้างโลกที่สงบสุข เปิดกว้าง และร่มเย็นยิ่งขึ้นเพื่อคนรุ่นต่อไป

กู๊ดริช ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิมรดกการบินสหรัฐฯ-จีน  เล่าถึงเรื่องราวอันเป็นตำนานของบิดาผู้ซึ่งขับเครื่องบินขับไล่ฟลายอิงไทเกอร์ส 88 ลำเหนือ“เส้นทางฮัมป์ริดจ์”  ท่านกล่าวว่า
 ขณะนี้บิดาของผมอายุ 101 ปีแล้ว เราทุกคนหวังว่าด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสหรัฐฯ  และจีน จิตวิญญาณของฟลายอิงไทเกอร์สจะถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และมิตรภาพระหว่างประชาชนระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังคงอยู่ต่อไป

ในงานวงดุริยางค์ซิมโฟนีหนิงโป ได้บรรเลงบทเพลงคลาสสิก เช่น “คอนแชร์โตแม่น้ำเหลือง” และ “สามัคคีชุมนุม”  แขกผู้มีเกียรติได้ร่วมติดตามการบรรยายของผู้เล่าชาวจีนและชาวอเมริกัน เพื่อย้อนรำลึกเรื่องราวซาบซึ้งใจห้าเรื่อง เกี่ยวกับ การช่วยเหลือและสนับสนุนซึ่งกันและกันของทั้งสองประเทศในช่วงสงคราม ได้แก่ ๑. เรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารหมู่ที่หนานจิง ซึ่งได้ย้อนรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดนี้ และความพยายามของชาวจีนและชาวต่างชาติในการบันทึกความจริง และปกป้องความยุติธรรม รวมถึงการถ่ายทอด ความสำคัญของสันติภาพ  ๒.  เรื่องราวของค่ายกักกันเว่ยเซียน ที่สะท้อนให้เห็นว่า ชาวจีนและชาวอเมริกันในค่ายกักกันได้ก้าวข้ามความแตกต่างทางสัญชาติ ช่วยเหลือและพึ่งพากันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคและผ่านพ้นวิกฤติไปด้วยกัน  ๓. เรื่องราวของการโจมตีของดูลิตเติ้ล ที่ถ่ายทอดประสบการณ์จริง หลังปฏิบัติการ เมื่อทหารและประชาชนจีนและชาวอเมริกันร่วมแรงร่วมใจกันในการช่วยเหลือชีวิตและปกป้องสหายร่วมรบ สะท้อนถึงน้ำใจและมิตรภาพท่ามกลางสถานการณ์เป็นความเป็นความตาย  ๔.  เรื่องราวของฟลายอิงไทเกอร์ส ที่เล่าถึงความกล้าหาญของสมาชิกฟลายอิงไทเกอร์ส ผู้เข้าร่วมการรบในสมรภูมิ ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารและประชาชนจีน และช่วยปกป้องน่านฟ้าอย่างเต็มกำลัง  ๕. เรื่องราวของ “เส้นทางฮัมป์ริดจ์” ที่ได้ย้อนรำลึกถึงกระบวนการเปิดเส้นทางดังกล่าว ซึ่งบุคลากรชาวจีนและชาวอเมริกันได้ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคและความยากลำบากทั้งด้านภูมิประเทศและสภาพอากาศ เพื่อสร้างวีรกรรมในการคุ้มครองการลำเลียงเสบียงและการสนับสนุนแนวหน้า อันสะท้อนให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักถึงมิตรภาพระหว่างประชาชนจีน-สหรัฐฯ ที่ดำรงอยู่เหนือกาลเวลา

ระหว่างงาน เฉิน ลี่ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติได้เข้าชม “เคียงบ่าเคียงไหล่ : นิทรรศการภาพถ่ายการร่วมแรงร่วมใจของประชาชนจีน-สหรัฐฯ ในการต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์” ซึ่งคัดสรรภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่ามากกว่า 300 ภาพ จัดแสดงตามลำดับเวลาในลักษณะ พาโนรามา ถ่ายทอดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ อาทิ “การกู้ภัยระหว่างประเทศในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่หนานจิง” “การรบสนับสนุนของฟลายอิงไทเกอร์สในจีน” “การขนส่งทางอากาศผ่านเส้นทางฮัมป์ริดจ์” และ “การกู้ภัยครั้งใหญ่หลังปฏิบัติการโจมตีของดูลิตเติ้ล” นิทรรศการนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันทรงพลังของช่วงเวลาที่จีนและสหรัฐฯ ร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับศัตรูอย่างสมจริงและทรงพลัง หลังการเยี่ยมชม แขกผู้มีเกียรติหลายท่านกล่าวว่า แม้เวลาจะผ่านไป 80 ปี แต่ความทุกข์และการเสียสละในช่วงเวลานั้นไม่ควรถูกลืมเลือน และคนรุ่นหลังควร สืบสานมิตรภาพดั้งเดิมระหว่างประชาชนจีน-สหรัฐฯ เพื่อร่วมกันเขียนบทใหม่แห่งมิตรภาพระหว่างสองประเทศ

งานนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับมณฑลและเมืองของจีน เช่น เมืองฉูโจว เมืองกุ้ยหลิน และเมืองเหวยฟาง งานนี้ไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงวาระครบรอบ 80 ปี แห่งชัยชนะของสงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลกอย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษเท่านั้น แต่ยังใช้ “ดนตรีเป็นสื่อกลาง เรื่องราวเป็นสะพานเชื่อม” เพื่อเพิ่มมิติทางประวัติศาสตร์และความผูกพันทางอารมณ์ให้กับการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนจีน-สหรัฐฯ ในยุคใหม่ และเพื่อรวบรวมพลังจากภาคประชาชนในการสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง

You can share this post!

ไทยนำเสนอเมนูสร้างสรรค์ในกว่างซี สร้างสะพานวัฒนธรรมแห่งปลายลิ้น