MANGU Entertainment Issue 237 พบกับ วง Only Monday

Only Monday วงดนตรีร็อคหน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดในเวลานี้จากค่าย GeneLab จากการรวมตัวกันของ 3 สมาชิกที่รักเสียงดนตรี ธีร์-ทีปกร คำสุรีย์ (ร้องนำ/กีตาร์) โปรด-วริศ สาระเขตต์ (เบส) และ เฟรม-คฑาวุธ ขำทอง (กลอง) ซึ่งจากผลงานเพลง “ได้แต่นึกถึงปัจจุบันมียอดวิวบน Youtube มากกว่า 65 ล้านครั้ง และขึ้นอันดับสูงสุดบน Billboard Thailand Songs Chart ที่อันดับ 2 รวมถึงยังเคยคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต JOOX Top Indie ทำให้วง Only Monday รู้จักและมีชื่อเสียงอย่างเป็นวงกว้างทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันได้ปล่อยอัลบั้มตัวเต็มในชื่อ Only Monday ซึ่งได้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จและความสามารถของพวกเขา นิตยสาร @ManGu ฉบับนี้ขอพาทุกคนไปทำความรู้จักที่มาของวงและเบื้องหลังความสำเร็จของวงดนตรีร็อคหน้าใหม่ วง Only Monday

 ManGu : แนะนำตัวและประวัติการศึกษาคร่าวๆ

Tee : สวัสดีครับ ผม ธีร์ only Monday อายุ 19 ปีเป็นมือกีตาร์และร้องนำครับ

Prod : สวัสดีครับ ผม โปรด only Monday อายุ 20ปี เป็นมือเบสครับ

Frame : สวัสดีครับผม เฟรม อายุ 20 ปี เป็นมือกลองครับ

 

ManGu : แต่ละคนเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่ตอนไหนและรู้จักกันได้อย่างไร

Tee : ผมเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ตอนแรกเริ่มจากเปียโน แล้วก็ค่อยมาเล่นกีตาร์ ก่อนหน้านั้นทำวงมาเยอะมากแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ จนมาเจอสองคนนี้ เพราะว่าอยู่โรงเรียนเดียวกันแล้วก็มาร่วมวงกันครับ

Frame : ผมเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่ อายุ 13 ปี ตอนนั้นที่ต้องเลือกวิชาชุมนุม อาจารย์ก็เลยจัดมาให้เล่นกลองชุด ก็เลยเล่นมาตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ครับ

Prod : ผมเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่ป.3 ตอนแรกเล่นเปียโนก่อน เล่นมาได้สักพักก็เปลี่ยนมาเล่นเบส เพราะว่าดูหนังเรื่อง suck seed เห็นพี่ เก้า จิรายุ เล่นเบสก็เลยอยากลองเล่นเหมือนพี่เขา ก็เลยเล่นมาจนถึงทุกวันนี้ครับ

ManGu : ทำไมต้อง Only Monday

Only Monday : Only Monday มาจากตอนที่รุ่นพี่จับพวกเรามารวมกัน จริงๆเมื่อก่อน Only Monday เป็นวงที่มีเครื่องเป่า คีย์บอร์ด ซึ่งตอนนั้นมีห้องซ้อมใหญ่ห้องเดียว ในโรงเรียนเป็นโรงเรียนดนตรีก็จะมีหลายวง เช่น วงดนตรีเครื่องสาย วงเครื่องเป่า และก็วงริทึ่ม ซึ่งพวกผมเป็นวงริทึ่ม แล้วเขาก็จับเอาเครื่องเป่ามาใส่ คิวซ้อมก็คือได้แค่วันจันทร์วันเดียว ก็เลยเป็นชื่อที่เอามาตั้งเป็นชื่อวงครับ

 

ManGu : ช่วยเล่าจุดเริ่มต้นในการเป็นศิลปินของค่าย Gene Lab

Only Monday : ตอนนั้นก็จัดการประกวดค้นหาศิลปิน พวกผมก็ส่งคลิปออกไป แล้วก็ได้ไปเข้ารอบไฟนอล พอหลังจากเล่นเสร็จก็มีรุ่นพี่ GeneLab เรียกพบหลังเวที แล้วเขาก็ถามคำถามว่า ทำไมถึงอยากอยู่ค่ายนี้แล้วคิดว่าค่ายเพลงนี้สามารถทำอะไรให้เราได้บ้าง ถ้า GeneLab รับมาเป็นศิลปินแล้วคาดหวังอะไรจาก GeneLab? พวกผมก็ตอบตรงๆไปเลยว่า อยากดังครับ สิ่งที่คาดหวังจากค่ายคือ อยากให้ค่ายเป็นตัวนำสื่อของพวกผมครับ ถ้าเกิดพวกเราทำกันเอง ก็จะไม่ได้ถ่ายทอดถึงวงกว้าง อาจจะเป็นเฉพาะกลุ่มเล็กๆ แต่เพราะมีค่าย ค่ายเป็นองค์กรหนึ่งซึ่งใหญ่กว่าสิ่งที่พวกผมทำ ซึ่งเขาก็อาจจะเผยแพร่สื่อบทเพลงของพวกผมออกไปได้วงกว้างขึ้น ผมก็อยากจะให้ค่ายเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของพวกผมครับ

ManGu : ตอนที่ปล่อยเพลงแรก แต่ละคนรู้สึกกังวลเรื่องผลตอบรับไหม

Only Monday : ตอนพวกเราปล่อยเพลงแรกก็อาจจะมีความกังวลบ้าง พวกผมค่อนข้างที่จะโฟกัสไปในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยโฟกัส ก็คือความเข้าใจของคนฟัง แต่ว่าเพลงสองมาตราฐานที่ออกไปครั้งแรก ก็อาจจะไม่ค่อยมียอดวิวที่สูงมากหรือว่ายอดสตรีมมิ่งเท่าเพลงอื่นๆ แต่เพลงนี้ผมไปไล่อ่านจากคอมเมนต์ ถือว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่พวกผมต้องการจะสื่อว่าพวกผมคือใคร พวกผมคืออะไร ว่าพวกผมกำลังทำอะไรอยู่ เหมือนเราให้เขาเห็นตั้งแต่แรกว่า เป็นแบบไหน แล้วทุกคนเข้าใจ ผมก็ถือว่าประสบผลสำเร็จอีกในระดับนึง ประมาณนั้นครับ

 

ManGu : จนกระทั้งตอนที่ปล่อยเพลง ได้แต่นึกถึงตอนนี้เพลงนี้มียอดวิวทะลุ 50 ล้านวิวแล้ว รู้สึกอย่างไรกันบ้าง

Only Monday : ดีใจแล้วก็ตกใจด้วยครับ ไม่คิดเลยว่ามันจะขนาดนี้ แล้วเราก็ไม่ทันได้ตั้งตัว เหมือนเพลงแรกที่ปล่อยออกมา ถามว่ามันคาดหวังไหม มันก็คาดหวัง แต่ว่าอันนี้มันเกินคาดไปเลย แบบว่าเดินไปร้านหมูกระทะ ขึ้นรถเมล์ก็ได้ยินเสียงเพลงของเราทุกทีครับ

ManGu : พอเพลงนี้ได้รับกระแสที่ดีมากๆ การทำงานในผลงานต่อไปรู้สึกกดดันไหม

Only Monday : หลายๆคนอาจจะมองว่า พอเพลงนี้มันมีคนฟังเยอะ แล้วพอทำเพลงต่อไปพวกผมเนี่ยจะกดดันกันหรือเปล่า จะทำได้เท่าเพลงแรกไหม? จริงๆพวกผมค่อนข้างผ่อนคลายมากกว่า เพราะว่า พอปล่อยเพลงนั้นไปแล้ว ทุกคนได้เห็นเรามากขึ้นแล้ว ผมไม่ได้โฟกัสว่า ผมจะต้องทำเพลงทุกเพลงให้เป็นได้แต่นึกถึง ผมรู้สึกว่าการที่เรายิ่งทำตามกระแสหรือว่าพยายามทำให้มันแมสเท่าไหร่ ความเป็นตัวตนของตัวเองก็จะยิ่งลดลง พวกผมจะไม่พยายามมองว่า เมโลดี้มันต้องยังไง คนฟังต้องจะต้องฟังเป็นสิบล้านหรือยี่สิบล้านอะไรอย่างนี้ครับ ถ้าพวกผมทำแล้วมีความสุข และสื่อสารออกไปอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ก็ถือว่าไม่กดดันครับ

 

ManGu : เพลงของวงส่วนมากจะเป็นแนวอกหัก หรือ รักไม่สมหวัง เพลงแนวนี้เป็นสไตล์ของวงเลยหรือเปล่า และในอนาคตแฟนๆจะได้เห็นแนวเพลงไหนอีกบ้าง

Only Monday : จริงๆแล้วเราพยายามที่จะเล่าชีวิตของวัยรุ่นในยุคนี้ จะเจออะไรกันบ้าง ส่วนมากก็จะเจอเรื่องความรัก เป็นเรื่องที่คนรุ่นผมเข้าใจได้ง่ายไม่เกินวัย ก็เลยอยากที่จะเริ่มเล่าจากตรงนี้ก่อน แล้วก็บางครั้งอาจจะมีเรื่องของสังคม สภาพแวดล้อม มันก็เลยเกิดเป็นเพลงสองมาตรฐานครับ เราไม่ได้ตั้งใจจะแต่งแค่เพลงอกหักหรือว่าเพลงรัก เราตั้งใจที่จะเล่าเรื่องของคนยุคนี้ แบบไปเจออะไรกันมาละก็นั่งคุยกันครับ เพลงเหมือนกับการเราออกไปใช้ชีวิต สิ่งที่เราเก็บเกี่ยวมาได้ก็เอามาแต่ง

ManGu : อยากให้แต่ละคนนิยามตัวตนตัวเองจากเพลงในค่าย Gene Lab

Tee : เพลง ไม่คิดจะลืม เป็นซิงเกิ้ลที่สามจาก Only Monday อันนี้จะเศร้านิดนึงนะครับ เป็นมาสองปีละครับ ตั้งแต่แต่งเพลงนี้มา คนในครอบครัวก็ค่อยๆจากไปทีละคน จริงๆแล้วเพลงนี้เขียนให้คนเหล่านั้นด้วยตอนนี้ก็พึ่งมาเสียน้าไป ก็ยังเสียใจอยู่ครับ เพลงนี้ก็เลยทัชในใจผมเลยตอนนี้

Prod : ของผมซับซ้อนนิดนึง มีสองเพลงคือเพลง ได้แต่นึกถึง และเพลง ทิ้งไป เพราะว่าเพลงทิ้งไปทำให้ผมนึกถึงอดีตตอนม.2 เขาหักอกผมสองสามวัน ต่อมาก็ขึ้นสถานะกับใครก็ไม่รู้ พอเพลงออกก็พึ่งนึกได้ว่าทำไมมันตรงกับเราจังเลยอะไรประมาณนี้ครับ ได้แต่นึกถึงก็แบบนึกถึงเม็มมอรี่ที่ดีต่อกัน ไม่ได้โกรธเคืองอะไรด้วยกันแล้วก็แค่นี้ครับ

Frame : ตอนนี้ก็น่าจะนึกถึง คนจริงใจ ของวง Cocktail ครับ

 

ManGu : มีศิลปินในประเทศและต่างประเทศวงคนไหนหรือวงไหนที่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด

Tee : The 1975, , Radiohead

Frame : F.HERO

Prod : The Parkinson, Paradox , THE TOYS และพี่อ็อฟ ปองศักดิ์

ManGu : นิยามตัวตนของวงใน 1 ประโยค

Tee : เป็นวงอินดี้ร็อคสมัยใหม่ คนแต่งเพลงเหมือนเป็นไบโพล่าครับ

Frame : วงดนตรีที่ให้มากกว่าดนตรี

Prod : สามคนก็เฟี้ยวได้

 

ManGu: เป้าหมายในวงการเพลง แต่ละคนตั้งเป้าหมายอย่างไรบ้าง

Tee : ผมอยากให้ Only Monday ขึ้นไปได้ในระดับที่คนสามารถเรียกได้ว่าเป็นวง ซุปเปอร์สตาร์ ถ้าเป็นระดับซุปเปอร์สตาร์จะสามารถทำให้คนเชื่อหรือศรัทธาได้ สมมุติว่าใครเป็นซุปเปอร์สตาร์แล้วใครพูดอะไรสักอย่าง คำพูดของเขาก็จะมีน้ำหนัก ผมอยากจะให้น้ำหนักตรงนี้จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมเพลงไทย ไม่ถือว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงแต่จะทำให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในจุดเปลี่ยนแปลงวันนี้ครับ

Frame : อยากเป็นตำนานในยุคนึง ให้คนรุ่นต่อไปได้รู้ครับ

Prod : ผมอยากให้ทุกคนรู้จักพวกผมเยอะๆครับ

ManGu : สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับทั้งชาวไทย และชาวจีนที่ติดตามและซัพพอร์ตเรามาตลอด พร้อมฝากช่องทางการติดตาม

Only Monday : ก่อนอื่นต้องขอบคุณแฟนๆที่ติดตามของพวกเรามาโดยตลอด บางคนอาจจะติดตามตั้งแต่ช่วงที่วงพึ่งทำใหม่ๆ บางคนก็อาจจะพึ่งมาติดตามช่วงนี้ หรือตามมาจากเพลงแล้วแต่นึกถึงนะครับ ขอบคุณทุกๆคนนะครับที่ติดตามพวกเราแล้วฟังเพลงพวกเรามาโดยตลอด หวังว่าเพลงของพวกเราจะอยู่ในช่วงชีวิตของทุกคนนะครับ ถือว่าอยากให้เพลงของพวกเราเป็นหนึ่งความทรงจำ ในอนาคตอยากจะให้ทุกคนมองกลับมาในอดีตว่า เคยมีอดีตกับเพลงนึง ฉันเคยผูกพันกับเพลงๆนี้ ก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคน แล้วก็ฝากติดตามผลงานใหม่ๆของ Only Monday ด้วยนะครับ สามารถติดตามได้ที่ Gene Lab และ Only Monday ในทุกๆช่องทางนะครับ ขอบคุณครับ

 

Thank you.

Teepakorn Kumsuree (Tee)
IG : @tee.onlymonday

Katawut Khamthong (Frame)
IG : @frame.onlymonday

Varis Sarakhet (Prod)
IG : @prod.onlymonday


IG : @onlymonday.band
FB : Only Monday Band

Make up & Hair : Patcharapon Mekee @Tangtang_43
Pundarik Rueenphakphet @Shomtis

感谢拍摄场地 : GMM Grammy

Special Thanks : Rudeekorn Morakotsin @bbbbarbiebbb

 

Photographer : Chanokpohn Camnasak @Mickeyhighway_

Graphic Designer : Satamed Kunawattana @Pdillustrator 

Coordinator / Interviews : Patthanapong Polpiboon @plyyp  

Column Writer : Zou SiYi @joy_zz97/ Thanyamon kheedwan @Wanpr.qp / Patthanapong Polpiboon @plyyp 

You can share this post!

MANGU Entertainment Issue 238 พบกับ MONICA ศิลปินจากค่ายเพลง White Music

MANGU E-Magazine Entertainment Issue 236 พบกับ “ท็อป ณธรรศ ตันเจริญ” และ “หล่งซื่อ ลี” นักแสดงจากซีรีส์ Even Sun Series ฉันนี่แหละอาทิตย์